สรุปการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation)
ชื่อ นางสาวฑิตฐิตา สกุล ทองน้อย เลขที่ 26ห้อง 5/9
กลุ่มที่ 4
ปัญหาที่นักเรียนศึกษา ปัญหารถติด
ที่มาและความสำคัญของปัญหา
ผู้บริหารประเทศในอดีต ขาดวิสัยทัศน์อันยาวไกล และไม่ใส่ใจความเป็นอยู่ของประชาชน จึงไม่ได้พัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เท่าทันกับการเจริญเติบโตของบ้านเมือง ทำให้ปัญหาจราจรเกิดขึ้น และค่อยๆก่อตัวสะสมปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความล้มเหลวของระบบขนส่งมวลชนที่ผ่านมา เป็นสาเหตุสำคัญที่บีบบังคับให้คนกรุงเทพฯ ต้องดิ้นรนหารถส่วนตัวเพื่อใช้ในการเดินทาง สะสมกันมาหลายสิบปี จนฝังรากกลายเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง และรถยนตร์คือปัจจัยที่ 5 ในการดำเนินชีวิต เมื่อมีการใช้รถส่วนตัวกันมาก ก็ทำให้รถติด รถยิ่งติดก็ยิ่งทำให้คุณภาพและการบริการของรถเมล์ยิ่งเลวลง ผู้คนก็ยิ่งต้องดิ้นรนซื้อรถส่วนตัวกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหนีสภาพการบริการอันเลวร้ายบนรถเมล์ วนเวียนเป็นวัฏจักรชั่วร้าย( vicious cycle )ที่ไม่มีวันจบสิ้น ทำให้การแก้ปัญหาจราจร เป็นไปไม่ได้ในสายตาของผู้รับผิดชอบและผู้บริหารประเทศในอดีตที่ผ่านมา การคิดง่ายๆว่าจะแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯด้วยการสร้างเครือข่ายถนนเพิ่มขึ้น ทำอุโมงค์หรือสะพานต่างระดับข้ามทางแยกทุกแห่ง สร้างทางด่วนให้ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไข เวลา เงินลงทุน ภาวะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และที่สำคัญคือ วัฒนธรรมการเดินทางของคนกรุงเทพฯ ตลอดจนวัฏจักรอันชั่วร้ายของปัญหาจราจรที่เกิดขึ้นแล้ว คงจะต้องพิจารณาทบทวนเสียใหม่ เพราะมาตรการเพิ่มพื้นผิวจราจร ต้องใช้ทั้งเวลาและการลงทุนสูง เมื่อเทียบกับอัตราการเพิ่มขึ้นของปริมาณการจราจรแล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เป็นมาตรการหลักในการแก้ไขปัญหา หากจะเร่งดำเนินการกันเต็มที่ ก็จะได้ผลเพียงการผ่อนคลายปัญหา หรือไม่ให้ปัญหาเลวร้ายลงไปกว่าเดิมเท่านั้น หนทางเดียวที่จะแก้ปัญหาจราจรทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาวก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ที่ใช้รถส่วนบุคคล ( รถเก๋ง รถปิคอัพ และรถจักรยานยนตร์ ) ให้มาใช้ระบบขนส่งมวลชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การย้ายเมือง การย้ายสถานที่ราชการ หรือการสร้างเมืองใหม่ ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถาวร ถ้าพฤติกรรมการเดินทางของประชาชนยังเป็นเช่นเดิม เมืองใหญ่ๆในภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต ขอนแก่น ฯลฯ ต่างประสบปัญหาจราจรจากการแพร่ระบาดของวัฒนธรรมการเดินทางแบบคนกรุงเทพฯเช่นกัน เป็นที่ยอมรับกันว่า เมืองใหญ่ๆที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จะต้องจัดเตรียมและพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เพื่อรองรับการเดินทางของผู้คนก่อนที่จะเกิดปัญหาจราจร หากการจราจรเกิดภาวะวิกฤติเสียแล้ว การหวลกลับมาพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อแก้ปัญหา จึงเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จ ดังเช่นที่เมืองลอสแอนเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และ กรุงเทพฯของเรา โดยมีอุปสรรคจากวัฏจักรอันชั่วร้ายที่ก่อตัวขึ้นมาแล้ว หนทางเดียวที่จะทำลายวัฏจักรดังกล่าวคือ ดึงรถเมล์ออกมาจากวัฏจักร แล้วพัฒนาให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน สำหรับในกรุงเทพฯ อาจจำเป็นต้องใช้ระบบโซนนิ่งเป็นมาตรการสนับสนุน เพื่อให้การพัฒนารถเมล์ประสบความสำเร็จในช่วงของการแก้ปัญหาจราจรในระยะเร่งด่วน โดยการปรับปรุงรถเมล์โดยสารให้ถึงพร้อมทั้ง คุณภาพ ปริมาณ ความปลอดภัย ไปได้รวดเร็ว และขั้นตอนต่อไปต้องเร่งสร้างเครือข่ายรถไฟฟ้าใต้ดินให้เป็นระบบขนส่งมวลชนเสริม เพื่อรองรับการแก้ปัญหาในระยะยาว เนื่องจากกรุงเทพฯเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรมาก ในอนาคตจึงจำเป็นต้องมีระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อขนส่งผู้โดยสารจำนวนมากๆ ด้วยความรวดเร็ว และรถเมล์โดยสารจะเป็นระบบขนส่งมวลชนหลัก ที่รับส่งผู้โดยสารไปสู่จุดหมายปลายทาง ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า ขั้นตอนการพัฒนาปรับปรุงรถเมล์โดยสารให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนที่ขับขี่รถส่วนบุคคล เป็นจุดหักเปลี่ยนที่สำคัญยิ่งหากมองข้ามจุดนี้ การแก้ปัญหาจราจรในระยะสั้นก็จะล้มเหลว และจะส่งผลกระทบไปถึงแผนการแก้ปัญหาในระยะยาว เมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่นในอารยะประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่จะใช้ระบบขนส่งมวลชนในการเดินทาง เนื่องจากรัฐบาลของเขา ได้เตรียมการและพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เพื่อรองรับความเจริญของบ้านเมือง ซึ่งต่างจากเมืองใหญ่ในประเทศด้อยพัฒนา ที่ระบบขนส่งมวลชนมักจะถูกละเลย และประชาชนถูกทอดทิ้งให้ดิ้นรนหาวิธีการเดินทางกันเอง ในท้องถนนจะเต็มไปด้วยรถคันเล็กคันน้อย ทั้งที่เป็นรถส่วนตัวและรถบริการสาธารณะ แก่งแย่งกันใช้พื้นที่ถนนที่มีอยู่อย่างจำกัด สับสนอลหม่าน และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สถิติการบาดเจ็บล้มตายจากอุบัติเหตุจราจร สูงกว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่สายเกินไปที่เราจะคิดแก้ไข และปรับปรุงระบบการเดินทางในกรุงเทพฯเสียใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาปัญหารถติด
2.เพื่อเรียนรู้วิะีการสร้างภาพยนต์สั้นเกี่ยวกับปัญหารถติด
ผลการศึกษา (ให้เขียนตามวัตถุประสงค์ )
ได้ความรู้จากการศึกษาปัญหารถติดว่า สาเหตุสำคัญของปัญหารถติดคือ คนเรานำรถมาใช้บนท้องถนนเยอะ ข้อดี ข้อเสีย และได้รู้วิธีการแก้ปัญหารถติดในประเทศเราและทำให้มีการจราจรที่ดีและไม่ติดขัด เพื่อที่จะสะดวกในการเดินทางและไม่เสียเวลา และทำให้ลดการใช้รถใช้ถนนกันน้อยลง หันมาใช้จักรยานแทน หรือเมื่อไปในสถานที่ใกล้ๆก็เปลี่ยนจากการขับรถส่วนบุคคล มา เดิน หรือขี่จักรยาน ทำให้เราได้ทั้งออกกำลังกาย ลดปัญหาจราจรติดขัดบนท้องถนน และสามารถลดภาวะโลกร้อน ที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศได้อีกด้วย ประการที่2คือเราได้ศึกษาวิธีทำหนังสั้นเกี่ยวกับปัญหารถติด ทำให้เราได้รู้จักการทำหนังสั้น วิธีการทำหนังสั้น การจัดการควบคุมการแสดง เป็นต้น
เสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ
1.หยุดออกรถใหม่
2.แท็กซี่หยุดจอดแช่ ตามป้าย ตาม ริมถนน
3.รถเมล์หยุดจอดแช่ หยุดป้าย เข้าขวาแล้วออกซ้าย วิ่งตามเลนซ้ายของตนเอง
4.รถยนต์หยุด ขับปาดซ้าย เบียดขวา ขับตรงไปเรื่อยๆ ถ้าไม่เลี้ยว ก็ไม่ต้องเบียด ไม่ต้องกลัวไม่ได้ไป ถ้าไปดีๆ ได้ไปทุกคัน
5.รถยนต์ทุกชนิด หยุดวิ่งชิดซ้าย เบียนเลนรถจักรยานยนต์
6.รถจักรยานยนต์ก็หยุดวิ่งเลนขวา เลนกลาง
7.หยุดฝ่าไฟแดง ในขณะไฟเขียวกำลังจะหมดเวลา (เพราะฝ่าไฟแดง รถจะไปติดกันกลางไฟแดง เพราะต่างคนต่างจะไป สรุป ไปไหนไม่ได้สักทาง เพราะกูก็จะไป)
8.หยุดบีบแตรถ้ารถติดแช่นาน ก็ไม่ต้องบีบแตร ใส่กัน ยิ่งบีบ ยิ่งเบียดกัน
9.มีน้ำใจ หยุดรถให้รถคันอื่นเลี้ยว จะได้ไม่ค่อยๆขยับๆออกมาเบียดเองกลางถนน
10.หยุดรถทุกครั้งเวลาเห็นคนจะข้ามถนน ตรงทางม้าลาย ไม่ต้องให้คน เล่นเกมส์ วิ่งข้ามถนน ว่าจะรอดหรือไม่รอด
11.หยุดจอดรถ ในที่ห้ามจอด โดยจะเฉพาะช่วงถนนคอขวด
12.ถ้าไม่จำเป็นก็ใช้รถสาธารณะในการเดิน(จะได้ไม่ต้องบ่นว่าน้ำมันแพง)
13.ที่สำคัญปฏิบัติตามกฏจราจร
3.รถเมล์หยุดจอดแช่ หยุดป้าย เข้าขวาแล้วออกซ้าย วิ่งตามเลนซ้ายของตนเอง
4.รถยนต์หยุด ขับปาดซ้าย เบียดขวา ขับตรงไปเรื่อยๆ ถ้าไม่เลี้ยว ก็ไม่ต้องเบียด ไม่ต้องกลัวไม่ได้ไป ถ้าไปดีๆ ได้ไปทุกคัน
5.รถยนต์ทุกชนิด หยุดวิ่งชิดซ้าย เบียนเลนรถจักรยานยนต์
6.รถจักรยานยนต์ก็หยุดวิ่งเลนขวา เลนกลาง
7.หยุดฝ่าไฟแดง ในขณะไฟเขียวกำลังจะหมดเวลา (เพราะฝ่าไฟแดง รถจะไปติดกันกลางไฟแดง เพราะต่างคนต่างจะไป สรุป ไปไหนไม่ได้สักทาง เพราะกูก็จะไป)
8.หยุดบีบแตรถ้ารถติดแช่นาน ก็ไม่ต้องบีบแตร ใส่กัน ยิ่งบีบ ยิ่งเบียดกัน
9.มีน้ำใจ หยุดรถให้รถคันอื่นเลี้ยว จะได้ไม่ค่อยๆขยับๆออกมาเบียดเองกลางถนน
10.หยุดรถทุกครั้งเวลาเห็นคนจะข้ามถนน ตรงทางม้าลาย ไม่ต้องให้คน เล่นเกมส์ วิ่งข้ามถนน ว่าจะรอดหรือไม่รอด
11.หยุดจอดรถ ในที่ห้ามจอด โดยจะเฉพาะช่วงถนนคอขวด
12.ถ้าไม่จำเป็นก็ใช้รถสาธารณะในการเดิน(จะได้ไม่ต้องบ่นว่าน้ำมันแพง)
13.ที่สำคัญปฏิบัติตามกฏจราจร
นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการเรียนวิชา IS1
1.ได้ความรู้เกี่ยวกับทำหนังสั้น ทำให้งานที่ออกมามีคุณภาพ
2.ได้รู้จักกระบวนการทำงานต่างๆ
3.ได้รู้จักวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น